“4 วิธีสยบ!! ทุกปัญหาเรื่องเงินระหว่างสามีและภรรยา”

  • 11 พ.ค. 2563
  • 1638
หางาน,สมัครงาน,งาน,“4 วิธีสยบ!! ทุกปัญหาเรื่องเงินระหว่างสามีและภรรยา”

จากที่เรามีการ Live FB คุยกันระหว่างผม พี่หมอนัท คลีนิคกองทุน และพี่หนอม Taxbagnoms เซเลปทางการเงินผู้โด่งดังจาก aomMONEY.com เราก็ได้มีการพูดคุยในเนื้อหาที่ว่า เมื่อแต่งงานกันไปแล้วจะซ่อนเงินเมียยังไงไม่ให้รู้ แถมยังรวยด้วย

แหม… จากการสัมภาษณ์แล้ว พี่ต้าร์เองก็รู้สึกได้เลยว่า 2 ท่านนี้รักภรรยามากขนาดไหน เดี๋ยวมาดูความเห็นในเรื่องการเงินสำหรับคนที่พึ่งจะมีครอบครัวและกำลังจะมีลูกนะครับ

 

  1. ต้องคุยกันเรื่องวัตถุประสงค์การใช้เงินในส่วนต่างๆ

ถ้าเรามองในอดีต ผู้ชายจะเป็นผู้นำครอบครัวในการหาเงินเข้าบ้าน ส่วนผู้หญิงจะเป็นคนที่ดูแลบ้านและลูกๆ แต่สมัยนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ทุกคนต้องช่วยกันดูแลบ้านและเงินทอง แต่ก็อยู่ที่สไตล์ของแต่ละครอบครัวนะ บางคนใช้วิธีแยกเงินออกมาเป็น 3 ส่วน เงินเธอ เงินเขา เงินเรา

เงินในส่วนที่เป็นของส่วนตัวจะบริหารส่วนของใครของมัน ส่วนเงินกองกลางก็จะดูแลร่วมกัน หรือบางคนก็แบ่งแบบเดียวกันนั่นล่ะแต่อาจจะให้ฝ่ายที่เก่งเรื่องเงินกว่าเป็นคนดูแลกองกลางก็ได้ ที่สำคัญก็คือต้องโปร่งใสนะว่าเงินเอาไปทำอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษาบุตร การผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์

 

  1. หากคิดจะลงทุนต้องปรึกษากันก่อน

มีเรื่องที่เล่าสนุกกันประจำในส่วนของพ่อบ้านใจกล้าว่าเมียจะเป็นคนคุมเงินและจะให้เงินสามีใช้ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงสำหรับหลายๆ คู่นะ บรรดาพ่อบ้านก็เลยต้องหาที่ซ่อนเงิน สมัยก่อนจะมี Case Classic ที่จะซ่อนเงินแฟนตามหนังสือ ตามหลังรูปภาพ แต่หลายคนก็ลืมและเมียจับได้ สมัยนี้มัน Advance ไปกว่านั้นแล้ว คือ การเอาเงินไปลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือกองทุนรวม

แต่การลงทุนนั้นก็มีความเสี่ยงนะครับ เรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่งที่มีการพูดคุยขึ้นมาก็คือ เราอาจจะรับความเสี่ยงได้ไม่เท่าแฟนก็ได้ การลงทุนในส่วนตัวของเราก็ลงตามความเสี่ยงของเรา ในส่วนของแฟนก็ควรจะต้องลงทุนตามความเสี่ยงของแฟน ส่วนเงินกองกลางนั้นควรจะเป็นเงินที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันร่วมกัน

แต่ก็อาจจะมีเงินบางส่วนที่ลงทุนร่วมกันได้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของครบครัวแต่จะต้องมีวัตถุประสงค์ในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพื่อทุนการศึกษาบุตร การจัดพอร์ตตามความเสี่ยงในวัตถุประสงค์การลงทุนต่างๆก็ต้องประเมินให้ดีครับ แต่อย่างไรก็ตามเราจะลงทุนอย่างเดียวไม่ได้นะ อย่าลืมป้องกันความเสี่ยงจากประกันด้วย หากเราเป็นอะไรไปก็ยังมีเงินคุ้มครองครอบครัวจนกว่าเขาจะปรับตัวได้

 

  1. มีปัญหาเรื่องเงินต้องคุยกัน

หลายๆ คู่นั้น เวลาพูดถึงเรื่องเงินทองมักจะกลัวและไม่พูดให้อีกฝ่ายฟังว่ากำลังมีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย หนี้สิน หรือมีปัญหาในการหารายได้ เราไม่ควรจะปิดบังกันนะครับ ควรจะบอกอีกฝ่ายจะได้ช่วยกันแก้ปัญหากัน ไม่ว่าจะช่วยกันหารายได้มากขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ถ้าไม่คุยกันจะทำให้ครอบครัวตึงเครียด และเกิดปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันในครอบครัว จนกลายเป็นการเลิกลากันไปก็ได้

 

  1. ต้องพูดคุยความรับผิดชอบในเงินส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากเงินระหว่างเรา

ต้องอย่าลืมว่าเงินที่อยู่ในครอบครัวนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องของสามีภรรยาเท่านั้น อาจจะมีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องมรดกและเงินกองกลางของตระกูลด้วย ต้องวางแผนกันดีๆ รวมถึงให้ความรับผิดชอบกันดีๆ นะครับ ในเรื่องของมรดก ก็ต้องอย่าลืมศึกษาในข้อกฎหมายว่าจะให้ใครอย่างไรอย่างเป็นประโยชน์ที่สุด รวมถึงการทำพินัยกรรมเอาไว้ จะได้ไม่ทะเลาะกันในภายหลัง

ในบางครอบครัวนั้นมีการได้รับเงินจากกงสีที่เป็นธุรกิจที่พี่น้องช่วยกันทำตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ตรงนี้หากมีการแต่งงานแล้วเอาคนสามีหรือภรรยาที่แต่งงานเข้าไปช่วยบริหาร อาจจะมีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆได้ ควรมีการกำหนดธรรมนูญของธุรกิจและข้อตกลงต่างๆให้ดีระหว่างพี่น้องต่อคนนอก แต่บริษัทส่วนใหญ่ในสมัยนี้ก็มีการเปลี่ยนวิธีการจัดการในรูปแบบที่ทันสมัย เช่น การถือหุ้น การทำงานในระดับตำแหน่งงานตามฐานเงินเดือน ซึ่งจะทำให้แก้ปัญหาได้

 

การที่เราแต่งงานมีครอบครัวกันแล้ว เรื่องของการเงินก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ที่จะต้องวางแผนให้ชีวิตคู่และครอบครัวของเราประสบความสำเร็จทางด้านการเงินและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จริงๆแล้วที่เราคุยกันมีเนื้อหามากกว่านี้เยอะเลยนะครับ

 

หากใครสนใจฟังต่อเพิ่มเติม สามารถเข้าไปชมได้ที่ https://www.facebook.com/aommoneyth/videos/1089893064397166/ นะครับ

CR:Tar Kawin ,aommoney.com

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top