10 วิธีในการสร้างภาพลักษณ์ ให้มีอิทธิพลต่อคนอื่น

  • 23 พ.ค. 2566
  • 15241
หางาน,สมัครงาน,งาน,10 วิธีในการสร้างภาพลักษณ์ ให้มีอิทธิพลต่อคนอื่น

           คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่า ที่มีลักษณะท่าทางเหมือนคนเงียบ ๆ ติ๋ม ๆ ไม่ค่อยสู้คน ทำตามคำสั่งคนอื่นตลอด หรือแม้แต่ไม่กล้าตัดสินใจในสิ่งที่ควรทำ ถ้าเป็นแบบนั้นถึงคราวที่คุณจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วนะครับ เพราะบุคลิกท่าทางแบบนั้น ไม่ได้ช่วยให้คุณดูมาดแมนหรือสมกับที่เกิดมาเป็นผู้ชายเลยจริง ๆ 
          ถ้าอยากจะปรับลุคตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม อยากจะมีภาวะของความเป็นผู้นำคนอื่น ๆ บ้าง อย่างดูเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อคนอื่น ๆ ได้บ้างนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก หากคุณไม่เชื่อก็ลองนำ 10 วิธีง่าย ๆ ที่เรามาฝากกันนี้ไปใช้กันดูได้ โดยทั้ง 10 ข้อนั้น ก็ประกอบไปด้วย.. 

 1. รู้จักจูงใจคนอย่างมีเหตุมีผล
          การที่คุณจะทำให้คนอื่น ๆ ยอมรับในตัวคุณได้ เรื่องของการโน้มน้าวจิตใจก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณพึงมี โน้มน้าว ณ ที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้คนอื่น ๆ มาเชื่อแบบสนิทใจเลยว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปในสิ่งที่คุณกำหนด หากแต่เป็นการแสดงถึงความมั่นใจในตัวเองต่อเรื่องบางเรื่องที่คุณถนัด ชื่นชอบ หรือสามารถตอบปัญหานั้น ๆ ได้ หากมีคนสงสัยหรือค้างคากับสิ่งนั้น ๆ อยู่
          ตัวอย่างง่าย ๆ ถ้ามีคนมาถามคุณว่า จะเลือกซื้อคอมพิวเตอร์รุ่นไหนดี อยากได้รุ่นแพง ๆ จัง แต่การใช้งานของเขาไม่ได้สอดคล้องกับราคาที่ต้องจ่ายไป ก็ลองใจเย็น ๆ แล้วอธิบายคน ๆ นั้นให้เขาฟังว่า ลองเลือกเครื่องอื่น ๆ ที่ราถูกกว่านั้นไหม ตรงกับความพอดีของการใช้งานด้วย จะได้มีเงินเหลือไปทำอย่างอื่นได้อีก เป็นต้น

 2. อิทธิพลของสี สำคัญใช่เล่น
          เรื่องของสีสันต่าง ๆ ที่เรา ๆ เคยเรียน เคยเห็นกันมานั้น คุณเชื่อหรือไม่ว่า มีส่วนสำคัญที่ช่วยในเรื่องของการตัดสินใจและช่วยในเรื่องของภาพลักษณ์คนได้อย่างมากมายจริง ๆ สิ่งหนึ่งที่สะท้อนได้อย่างชัดเจนก็คือสีสันของเสื้อผ้าหลากดีไซน์ทั้งหลายนั่นเอง ง่าย ๆ เช่น คนส่วนใหญ่มักจะตีความกันว่า ผู้ชายคนไหนที่ใส่เสื้อสีชมพู ก็จะมีความหมายอยู่ 2 แบบ คือ ไม่กำลังอินเลิฟ ก็คงเป็นพวกผุ้ชายนุ่มนิ่ม เจ้าสำอางแน่ ๆ หรือหากคนในมาโทนเสื้อสีดำเข้มทั้งตัวตั้งแต่เสื้อยันรองเท้า ก็ชัวร์เลยว่า เป็นพวกร็อคเกอร์ที่จัดเต็มกับชีวิตแน่ ๆ

 3. รู้ขีดความสามารถของตัวเอง
          คนเราควรจะรู้ว่าความสามารถของตัวเองในการทำสิ่งต่าง ๆ นั้นมีมากมายหรือน้อยขนาดไหน สิ่งไหนถนัด สิ่งไหนรู้ สิ่งไหนชำนาญ ก็ควรจะทำให้เต็มที่และดึงศักยภาพตรงนั้นมาใช้ให้ถึงที่สุด แต่ถ้าเรื่องไหนไม่รู้ ไม่ถนัด หรือไม่พร้อม ก็ควรที่จะทำไปตามความสามารถ ได้แค่ไหนแค่นั้น อย่าไปดันทุรังทำจนเสียการเสียงานไปซะก่อน พยายามเลือกสิ่งที่ใช่ในสิ่งที่ชอบ และทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

 4. คำพูดคน ทรงพลัง
          เรื่องของคำพูด แม้ฟังดูผิวเผินก็จะเป็นการพูดให้คนอื่น ๆ ฟังทั่ว ๆ ไป แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว คำพูดของคนเรานี่ล่ะ คืออาวุธชั้นเยี่ยมที่จะไว้ต่อรองกับคนอื่น ๆ ได้อย่างดี ถ้าคุณเลือกใช้คำพูดดี ๆ มีวาทะศิลป์ หรือรู้จักพลิกแพลงให้คำพูดมีความสละสลวย ใครที่ได้มาฟังคุณพูดก็จะเกิดความรู้ที่ประทับใจ และรู้สึกเห็นชอบไปกับความคิดของคุณด้วยแต่ถ้ากลับกันคือพูดไม่ดี ใช้คำผิดความหมาย หรือพูดจาห้วน ๆ ก็จะมีใครฟังคุณ และคุณจะกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยน่าคบหาด้วยไปในที่สุด

 5. เพื่อนฝูงและคนรอบข้าง มีส่วนไม่น้อย
          บางทีการเดินตัวคนเดียวไปในที่ต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องดีที่คุณจะได้อยู่กับตัวคุณเองมากขึ้น แต่ถ้าเป็นแบบนั้นมาก ๆ เข้า นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ใครหลาย ๆ คนมองว่าคุณเป็นคนที่รักสันโดษเกินไป หรือไม่ก็อาจจะไม่มีใครคบกับคุณเลยก็ได้ ฉะนั้น เดินพูดคุยหรือไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ กับเพื่อน ๆ ของคุณบ้าง คนอื่น ๆ จะได้รู้ว่าคุณก็มีสังคมของคุณที่พูดคุยสนุก ๆ กับเพื่อนได้ ไม่ใช่อยู่ในโลกตัวคนเดียวอีกต่อไป

 6. เครื่องแต่งกาย ช่วยได้จริง ๆ 
          เรื่องของการแต่งกายก็สำคัญไม่แพ้กัน พูดให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ การแต่งกายของเรา ๆ นั้น จะเป็นจุดสังเกตอันดับแรก ๆ ที่คนเราจะมองกันก่อน ถ้าแต่แบบชิลเกินไป เสื้อยืดธรรมดา ๆ กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ก็อาจจะโดนเหมารวมไปว่าเป็นคนที่แต่งตัวไม่เป็น และไม่มีความน่าเชื่อถือเลย แต่หากคุณใส่เสื้อเชิ้ต ผูกเนคไท สแล็คอย่างดี รองเท้าหนังสวย ๆ คนอื่น ๆ ก็จะมองว่าคุณดูเรียบหรู และน่าคบหาด้วยมากกว่านั่นเอง ฉะนั้นอยากจะเป็นแบบไหน ก็ลองเลือกกันดูนะครับ

 7. รู้จักใช้น้ำเสียงอย่างถูกต้อง
           บางครั้งบางครา ประโยคเพียงหนึ่งประโยค หากพูดด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกันแล้ว ความหมายที่ต้องการจะสื่อ ก็อาจะผิดเพี้ยนกันไปได้ เช่น ประโยคที่ว่า "หยิบของตรงนั้นให้หน่อย" หากพูดห้วน ๆ แข็ง ๆ แล้ว ก็จะเหมือนเป็นการออกคำสั่ง แบบต้องการเดี๋ยวนั้นโดยทันที แต่ถ้าใช้น้ำเสียงที่อ่อนหวาน ขอกันดี ๆ ก็จะให้อารมณ์ที่ว่าไหว้วานหน่อย ซึ่งหากเป็นคุณที่ได้ยินเสียงทั้งสองเสียงนี้ คงเดาไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะครับ ว่าจะเลือกหยิบหนังสือให้ใครมากกว่ากัน

 8. มารยาททางสังคม
          แน่นอนว่าคุณเกิดมาไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวไปซะตลอด คุณต้องมีไปพบปะเพื่อนฝูงหรือต้องไปพูดจาเจรจากับบุคคลภายนอกเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ดังนั้น เรื่องของการวางตัวให้เหมาะสม ถูกต้องตามกาละเทศะ และการเรียนรู้มารยาทต่าง ๆ ทางสังคม จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องยึดถือเอาไว้มาก ๆ ซึ่งเมื่อคุณมีความเคารพและเกรงใจคนอื่น ๆ แล้ว คนอื่น ๆ ก็จะเคารพและเกรงใจคุณทำด้วยเหมือนกัน

 9. ชมเชยคนอื่นบ้าง ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
          กำลังใจเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันชีวิตให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างสดใสนะครับ หากคนรอบข้างของคุณทำงานดี หรือไปทำสิ่งดี ๆ มา คุณก็ควรจะชื่นชมเขาไว้สักหน่อย ให้เขาได้ดีใจกับสิ่งที่เขาได้ทำ เช่นเดียวกัน หากคนรอบข้างทำสิ่งที่ผิดพลาดไป ก้ให้อภัยและให้กำลังใจต่อกัน ไม่ต่อว่าหรือด่าทอให้เจ็บช้ำน้ำใจกันไปมากกว่านี้ จะดีกว่ามาก ๆ เลยทีเดียว

 10. เสียงเบา - เสียงดัง ก็มีความหมาย
          หากคุณเป็นคนที่พูดอ้อมแอ้ม ๆ อยู่ในลำคอ ไม่เปล่งเสียงให้ดัง ๆ ชัดเจน คุณรู้ไหมว่านั่นหมายความว่าอย่างไร นั่นหมายความว่าคุณเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยนะ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป มีหวังจะไม่มีใครฟังคุณอีกต่อไปแน่ ๆ ต้องกล้า ๆ หน่อยครับ พูดจาให้เสียงดัง ๆ เข้าไว้ คนอื่น ๆ จะได้รับรู้ความคิดเห็นของคุณ

เครดิต Kapook.com

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top